การคำนวณอายุครรภ์ คือการนับอายุทารกที่อยู่ในครรภ์ คุณแม่ส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับการนับ อายุครรภ์ เป็นเดือน...
มีคุณแม่ท้องแฝดมากมายเป็นกังวลกับความสามารถใน การให้นมลูก หลังคลอด...
เผลอเดี๋ยวเดียวเวลาก็ผ่านไปครึ่งปีแล้วนับจากวันที่ลูกน้อยลืมตาขึ้นดูโลก แม้คุณแม่จะตั้งอกตั้งใจดูแลลูกรักให้ดีที่สุดในทุกๆ วัน...
สามารถถีบจักรยานและใช้ขาประคองจักรยานได้มั่นคง นิ้วมือและฝ่าเท้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คุณพ่อคุณแม่เคยสงสัยว่า ทำไมในกลุ่มพ่อแม่ผู้ปกครองถึงไม่ค่อยคุยกันเรื่องอาหารการกินของลูกๆ มากนักทั้งๆ...
เมื่อลูกน้อยลืมตาดูโลก ไม่ว่าเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับลูก ทุกอย่างต้องคัดสรรมาอย่างดีที่สุด คุณแม่ต้องพิถีพิถัน เลือกแล้วเลือกอีก...
บทความนี้ถูกบันทึกลงในรายการบทความที่ฉันชื่นชอบ คุณสามารถเข้าไปดูบทความที่คุณบันทึกไว้ได้ที่โปรไฟล์ของฉัน
ความหมายแท้จริงของ การตรวจอัลตราซาวด์ คืออะไร การตรวจอัลตราซาวด์ ทุกรูปแบบเป็นกระบวนการตรวจสแกนแบบพื้นฐาน ไม่เจ็บปวดและไม่เสี่ยงอันตราย เป็นการตรวจโดยการส่งคลื่นเสียงความถี่สูงผ่านร่างกายและแสดงผลบนหน้าจอ การตรวจหญิงตั้งครรภ์จะใช้ทรานสดิวเซอร์เลื่อนไปบนหน้าท้องของคุณแม่เพื่อส่งคลื่นเสียงผ่านผนังหน้าท้องและผ่านทางมดลูก เมื่อคลื่นเสียงสัมผัสตัวทารกจะเกิดเสียงสะท้อนออกมาซึ่งระบบคอมพิวเตอร์จะแปลงเป็นภาพบนหน้าจอ ถ้าเด็กเคลื่อนไหวหรือเตะจะเห็นภาพปรากฏบนหน้าจอ คลื่นเสียงจะมีระดับความถี่สูงซึ่งหูของมนุษย์เราจะไม่สามารถได้ยินได้ค่ะ
การตรวจอัลตราซาวด์แบบ 3 มิติ คืออะไร การตรวจอัลตราซาวด์ 3 มิติ มีขั้นตอนที่ไม่แตกต่างจากการตรวจอัลตราซาวด์ 2 มิติ แต่ใช้เทคโนโลยีระดับสูงกว่ากันมากเพื่อให้ได้ภาพละเอียดและชัดเจนสูงขึ้น การตรวจอัลตราซาวด์แบบ 3 มิติสามารถถ่ายทารกนับพันรูปได้ในครั้งเดียว ประมวลผลด้วยระบบคอมพิวเตอร์แปลงข้อมูลเป็นภาพ 3 มิติ ซึ่งมีความชัดเจนคล้ายกับรูปถ่ายในชีวิตจริง ภาพนิ่งของทารกจะมีความเป็น 3 มิติมีความลึกเพิ่มเข้ามาทำให้มีความคมชัดกว่ารูปถ่ายแบบ 2 มิติ เนื่องจากภาพถ่ายอัลตราซาวด์ 2 มิติจะมองทะลุตัวทารกไปเห็นอวัยวะภายในและเนื้อเยื่อ ส่วนการตรวจอัลตราซาวด์ 3 มิติและ 4 มิติจะเห็นผิวของทารก เห็นทั้งรูปร่างและรูปทรงที่เหมือนจริงมากขึ้น รวมทั้งเห็นใบหน้าและรายละเอียดของลูกน้อยชัดเจนกว่าภาพถ่าย 2 มิติ การตรวจอัลตราซาวด์ 3 มิติ ใช้ทรานสดิวเซอร์ส่งคลื่นเสียงและซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ที่มีความทันสมัยและซับซ้อนมาก จึงเหตุผลที่การตรวจระบบ 3 มิติมีราคาแพงมากค่ะ ทั้งยังต้องขอตรวจเป็นพิเศษ ไม่ได้เป็นเครื่องมือตรวจอัลตราซาวด์ตามมาตรฐานทั่วไป
การตรวจอัลตราซาวด์แบบ 2 มิติและ 3 มิติแตกต่างกันอย่างไร การตรวจทารกในครรภ์ด้วยเครื่องอัลตราซาวด์ 2 มิติ จะได้รูปถ่ายแบบสไลด์เลื่อนดูได้ทีละภาพเท่านั้น เครื่องตรวจส่งคลื่นเสียงไปกระทบตัวทารกและสะท้อนกลับมาโดยตรงทีละภาพในแนวระนาบคือ กว้างxยาวแบบ 2 มิติ ขณะที่ การตรวจอัลตราซาวด์ 3 มิติ จะส่งรูปถ่ายนับพับภาพกลับมาอย่างรวดเร็ว เป็นการส่งคลื่นเสียงในลักษณะหลายระนาบพร้อมกันทำให้มีมิติความลึกสร้างภาพ 3 มิติขึ้นมา เมื่อคอมพิวเตอร์เก็บข้อมูลติดต่อกันและส่งไปประมวลผลสร้างภาพบนหน้าจอเป็น 3 มิติที่ชัดเจนเหมือนจริงยิ่งขึ้น การสร้างภาพ 3 มิติแสดงความกว้าง ความสูง และความลึกทำให้มองเห็นตัวทารกและอวัยวะภายในได้ชัดเจนมาก ดูราวกับเห็นทารกตัวจริงที่คลอดออกมาแล้วเพียงแต่ว่ามีขนาดเล็กกว่าทารกแรกคลอดเท่านั้น การตรวจอัลตาซาวนด์ 3 มิติทำให้ภาพของทารกดูชัดเจนเหมือนจริงมากขึ้น ทำให้คาดเดาได้ว่าเมื่อเด็กคลอดออกมาแล้วจะมีหน้าตาอย่างไร คุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นต้องใช้จินตนาการมากเหมือนรูปถ่าย 2 มิตินะคะ
ประโยชน์จาก การตรวจอัลตราซาวด์ 3 มิติ การตรวจครรภ์ด้วยอัลตราซาวด์ 3 มิติมีข้อดีตรงที่เห็นภาพทารกในครรภ์ได้ชัดเจน แต่ไม่มีประโยชน์ด้านอื่นอีก นับตั้งแต่เทคโนโลยีอัลตราซาวด์ 3 มิติเริ่มมีขึ้นเมื่อประมาณ 30 ปีมาแล้ว พ่อแม่นับพันคู่เลือกตรวจ อัลตราซาวด์แบบ 3 มิติเพราะอยากเห็นรูปร่างของลูกน้อยแบบเต็มตัว คลินิกแพทย์เฉพาะทางสูตินรีเวชใช้เทคโนโลยี 3 มิติตรวจทารกในครรภ์ ซึ่งผู้ปกครองต้องเสียค่าใช้จ่ายแพงขึ้นมาก โดยทั่วไปแล้วโรงพยาบาลรัฐบาลและศูนย์ดูแลแม่และเด็กจะใช้วิธีตรวจอัลตราซาวด์ทารกแบบ 2 มิติเท่านั้น ถ้าต้องการตรวจแบบ 3 มิติต้องไปโรงพยาบาลเอกชนหรือศูนย์ดูแลแม่และเด็กชั้นนำซึ่งจะมีเครื่องมือทันสมัยและผู้เชี่ยวชาญทางเทคโนโลยี การตรวจอัลตราซาวด์ 3 มิติต้องใช้ทักษะและความเชี่ยวชาญทางคลินิกในระดับสูง ต่างจากการตรวจแบบ 3 มิติ ต้องมีทรานสดิวเซอร์ทันสมัยเพื่อส่งคลื่นและวัดคลื่นเสียงที่สะท้อนกลับหลายมุมและใช้ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์แปลผลเป็นภาพบนหน้าจอด้วย ภาพที่ออกมาจึงแตกต่างจากรูปภาพ 2 มิติมาก
ตรวจอัลตราซาวด์แบบ 3 มิติช่วงเวลาไหนดีที่สุด โดยทั่วไปแล้วแนะนำให้ตรวจอัลตราซาวด์ 3 มิติช่วงตั้งครรภ์สัปดาห์ที่ 26-30 เว้นแต่แพทย์ผู้ดูแลจะให้ตรวจช่วงสัปดาห์อื่น ในระยะนี้ทารกในครรภ์ชั้นไขมันใต้ผิวหนังเพียงพอทำให้มองเห็นใบหน้าของลูกน้อยได้ชัดเจนแล้ว
การตรวจอัลตราซาวด์ 3 มิติ ใช้เวลาเท่าไร การตรวจอัลตราซาวด์ 3 มิติใช้เวลาไม่นานกว่าการตรวจแบบ 2 มิติ รูปภาพชัดเจนและเก็บในฮาร์ดไดรฟ์คอมพิวเตอร์เพื่อใช้ในภายหลังหากจำเป็น เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องอัลตราซาวด์ 3 มิติตรวจภายใน 30 นาทีเท่านั้น เพื่อลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นกับทารกจากการสัมผัสกับคลื่นเสียงเป็นเวลานานค่ะ บางกรณี การตรวจอัลตราซาวด์ 3 มิติ อาจไม่เห็นอะไรมากนัก ขึ้นอยู่กับว่าลูกนอนอยู่ในท่าไหนนะคะ หากทารกหันหน้าออกด้านนอกและมีปริมาณน้ำคร่ำล้อมรอบใบหน้ามากพอ จะโชคดีเห็นรูปหน้าลูกน้อยชัดเจน ไม่อย่างนั้นก็จะเห็นเฉพาะหลัง ไหล่ ก้น และแขนขา หากช่วงแรกทารกหันหน้าหนีเครื่องทรานสดิวเซอร์ แต่เวลาต่อมาเด็กอาจขยับหรือหมุนตัวกลับมามองเห็นภาพอย่างชัดเจนก่อนการสแกนตรวจจะเสร็จ หากลูกน้อยนอนขดตัวงอ อาจเห็นเพียงแผ่นหลัง และมือของเด็กน้อยอาจปิดหน้าอยู่ทำให้เห็นใบหน้าไม่ชัดนัก ถ้าคุณแม่มีน้ำหนักมากบริเวณช่องท้องจะมีไขมันหนาทำให้มองเห็นทารกในครรภ์ยากขึ้นไปอีก หากลูกน้อยอยู่ในท่าไม่เหมาะกับการตรวจสแกน แนะนำให้คุณแม่ลุกเดิน ดื่มเครื่องดื่มเย็น ๆ พูดกับลูก หรือนวดท้อง เพื่อกระตุ้นให้เด็กตื่นตัวและพลิกตัวเปลี่ยนตำแหน่งให้อยู่ในท่าที่เห็นได้ชัดเจน คุณแม่สามารถขอรูปภาพหรือวีดีโอจาก การตรวจอัลตร้าซาวด์ 3 มิติ กลับมาบ้านได้นะคะ โดยสอบถามที่แผนกประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาลในช่วงนัดวันตรวจ ว่าขอเก็บข้อมูลในเมมโมรี่สติ๊กได้หรือไม่ อาจพาสมาชิกครอบครัวมาดูผลตรวจอัลตราซาวด์ด้วยกัน ในโรงพยาบาลบางแห่งมีห้องส่วนตัวพร้อมจอขนาดใหญ่ให้ทุกคนในครอบครัวร่วมแบ่งปันประสบการณ์ดี ๆ รวมถึงมีรูปถ่ายสแกนอัลตราซาวด์ให้ติดตัวกลับบ้านไปดูที่บ้านได้ค่ะ
ประโยชน์ของการตรวจอัลตราซาวด์ 3 มิติ เทียบกับ 2 มิติ การตรวจอัลตราซาวด์ไม่ได้ประโยชน์ทางทางการแพทย์ที่ชัดเจน แต่ถ้าจะมองหาความผิดปกติของทารกในครรภ์ การตรวจแบบ 3 มิติจะให้ภาพชัดเจนกว่า เมื่อนำไปใช้ตรวจความผิดปกติของหัวใจ ปากแหว่งเพดานโหว่ หรือความผิดปกติทางระบบประสาท เช่น ความผิดปกติของไขสันหลัง หากตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มแรกจะวางแผนคลอดและดูแลรักษาหลังคลอดเร็วขึ้น ช่วยให้พ่อแม่รู้ว่าจะต้องรับมืออย่างเมื่อทารกเกิดมา ไม่ต้องอาศัยจินตนาการและฟังคำอธิบายของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
พ่อแม่บางคู่พบว่า การตรวจอัลตราซาวด์ 3 มิติ ยิ่งเชื่อมโยงความรู้สึกผูกพันกับลูกน้อยก่อนเกิดได้นะคะ เนื่องจากเห็นหน้าและรูปร่างของทารกในครรภ์ชัดเจนแล้ว ยังเห็นความคล้ายคลึงกับสมาชิกในครอบครัว รู้เพศของเด็กและเห็นการเปลี่ยนแปลงของเด็กเป็นระยะ ๆ ด้วยค่ะ และระหว่างการตรวจอัลตราซาวด์ 3 มิติ พ่อแม่บางคู่ถือเป็นโอกาสดีในการตั้งชื่อลูกและเกิดความรู้สึกผูกพันกับลูกในท้องแต่เนิ่น ๆ แต่พ่อแม่บางคู่อยากรอจนกว่าจะได้เห็นลูกครั้งแรกหลังคลอดค่ะ
คุณแม่กำลังตั้งครรภ์สามารถติดตามอ่านข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจอัลตราซาวด์ 4 มิติ รวมถึงข้อมูลการเลี้ยงลูกในหัวข้ออื่น ๆ เพิ่มเติมจากเว็บไซต์ Huggies หากมีคำถามหรือข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถพูดคุยกับเราได้ที่ Facebook Huggies Thailand และอย่าลืม! กด สมัครสมาชิก เพื่อรับสินค้าทดลอง พร้อมรอรับข่าวสารและอัพเดตเทคนิคดี ๆ จากเรานะคะ
การคำนวณอายุครรภ์ คือการนับอายุทารกที่อยู่ในครรภ์ คุณแม่ส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับการนับ อายุครรภ์ เป็นเดือน เรามีวิธีคำนวณอายุครรภ์อย่างถูกต้องมาฝากค่ะ
ช่วงตั้งครรภ์ 2 สัปดาห์ คุณแม่ยังไม่ควรตื่นเต้นมากจนเกินไป เพราะเป็นช่วงเริ่มต้นเท่านั้นเอง มาดูกันค่ะว่าคุณแม่ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
อย่างที่ชื่อบอกไว้ ผ้าอ้อมสำเร็จรูปแบบแยกเพศคือเด็กคนไหนใช้ก็เหมือนกัน เท่าเทียมกัน แต่อย่างที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนจะเข้าใจในที่สุดว่าเด็กไม่ได้เหมือนกันทุกคน โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง
เมื่อรู้ตัวว่าตั้งครรภ์ โภชนาการที่ดี เป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณแม่เพราะอาหารคนท้องที่ดีจะทำให้ร่างกายคุณแม่แข็งแรง และยังช่วยบำรุงลูกน้อยในครรภ์อีกด้วยค่ะ
เวลาเดินเร็วจริงๆ นะคะ เข้าสู่เดือนที่ 5 ของการตั้งครรภ์แล้ว คุณแม่หลายๆ คนคงเริ่มที่จะคุ้นชินกับการอุ้มท้องบ้างแล้ว การเปลี่ยนแปลงในด้านร่างกายที่สังเกตได้ชัดคือการขยายของเต้านม การปวดขาเนื่องมาจากเส้นเลือดขอด และเกิดสิวที่ใบหน้าเนื่องจากต่อมใต้ผิวหนังผลิตไขมันมาออกมากขึ้น
แม่ท้องแทบทุกคนจะมีอาการเมื่อยล้า หรือปวดตามร่างกายเพราะน้ำหนักตัวที่มากขึ้น พัฒนาการทารกในครรภ์ก็ดีเยี่ยมขึ้นทุกวัน การเล่นโยคะสำหรับแม่ท้องจะช่วยลดความตึงเครียดและเมื่อยล้าของร่างกายได้เป็นอย่างดี แถมยังดีต่อพัฒนาการทารกในครรภ์ด้วยเหตุผลต่อไปนี้ค่ะ
ในช่วงตั้งครรภ์ 3 สัปดาห์ หลังจากไข่ผสมกับอสุจิเกิดการปฏิสนธิเข้าสู่ช่วงเริ่มแรกของการตั้งครรภ์ มาดูกันค่ะว่าคุณแม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง
เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ได้ 13 สัปดาห์ ถือว่าผ่านพ้นช่วงสุดท้ายของไตรมาสแรกไปอย่างรวดเร็ว อาการแพ้ท้องที่เคยเป็นหนักในระยะแรกเริ่มดีขึ้น เรามีคำแนะนำดีๆ ค่ะ
เมื่อคุณแม่มีอายุครรภ์ 6 สัปดาห์ ลูกน้อยมีขนาดตัวให้วัดได้แล้ว แต่เนื่องจากทารกในครรภ์ อยู่ในท่าขดตัว วัดได้ยาก มาดูกันค่ะว่าลูกน้อยมีพัฒนาการเป็นอย่างไร