การคำนวณอายุครรภ์ คือการนับอายุทารกที่อยู่ในครรภ์ คุณแม่ส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับการนับ อายุครรภ์ เป็นเดือน...
มีคุณแม่ท้องแฝดมากมายเป็นกังวลกับความสามารถใน การให้นมลูก หลังคลอด...
เผลอเดี๋ยวเดียวเวลาก็ผ่านไปครึ่งปีแล้วนับจากวันที่ลูกน้อยลืมตาขึ้นดูโลก แม้คุณแม่จะตั้งอกตั้งใจดูแลลูกรักให้ดีที่สุดในทุกๆ วัน...
สามารถถีบจักรยานและใช้ขาประคองจักรยานได้มั่นคง นิ้วมือและฝ่าเท้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คุณพ่อคุณแม่เคยสงสัยว่า ทำไมในกลุ่มพ่อแม่ผู้ปกครองถึงไม่ค่อยคุยกันเรื่องอาหารการกินของลูกๆ มากนักทั้งๆ...
เมื่อลูกน้อยลืมตาดูโลก ไม่ว่าเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับลูก ทุกอย่างต้องคัดสรรมาอย่างดีที่สุด คุณแม่ต้องพิถีพิถัน เลือกแล้วเลือกอีก...
บทความนี้ถูกบันทึกลงในรายการบทความที่ฉันชื่นชอบ คุณสามารถเข้าไปดูบทความที่คุณบันทึกไว้ได้ที่โปรไฟล์ของฉัน
คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจต้องรับมือปัญหาลูกไม่ยอมนอนตอนกลางคืน หรือตื่นบ่อย ตื่นกลางดึก ลูกร้องไห้ หรือนอนหลับยาก ซึ่งปัญหานี้ถ้าไม่ได้รับการแก้ไขจะส่งผลกระทบทั้งต่อ พัฒนาการเด็ก และต่อคุณพ่อคุณแม่ด้วยเช่นกัน ทั้งนอนหลับไม่เพียงพอ ทั้งเหนื่อยล้าสะสม วันนี้เราจึงได้รวบรวมสาเหตุของอาการต่าง ๆ ที่ทำให้เด็กน้อยนอนไม่หลับ และยังมีเคล็ดลับดี ๆ มาฝากด้วย เพื่อให้เด็กน้อยหลับสบายยาวนานตลอดคืน
โดยปกติแล้ว ทารกแรกเกิด - 3 เดือน จะใช้เวลาในการนอนมากถึง 14-16 ชั่วโมงต่อวัน จะตื่นก็ต่อเมื่อหิวหรือผ้าอ้อมเปียกเลอะจากการขับถ่าย จนอายุ 3 เดือนขึ้นไปก็จะหลับกลางคืนได้ยาวเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ แต่คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจพบว่าลูกน้อยของตนไม่เป็นเช่นนั้น ตามมาดูกันค่ะว่า การหลับยากของลูกมีสาเหตุจากอะไรได้บ้าง
1) ไม่สบายตัว ท้องอืดหรืออึดอัด เนื่องจากคุณแม่ให้ลูกทานนมมากเกินไป เช่น การให้ลูกทานนมทุกครั้งที่ลูกร้องหรือลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะคิดว่าลูกหิว เมื่อทานนมมากเกินไป อาจจะทำให้ลูกไม่สบายท้อง ท้องอืด ปวดท้องหรืออึดอัด จนต้องตื่นขึ้นมาร้องไห้โยเยทั้งคืน หรือคุณแม่บางคนให้ลูกดื่มนมผงร่วมด้วย ก็อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ลูกนอนหลับยาก เพราะนมผงทำให้ลูกท้องอืดและปวดท้องนั่นเอง 2) ลูกกินนมบ่อยเกินไป ในตอนกลางวันคุณแม่หลายคนให้นมลูกทุก 1-2 ชั่วโมง ทำให้ลูกติดจุกนมหรือหัวนมแม่ เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนกลางคืนไม่มีจุกนมหรือหัวนมแม่ตอบสนองทันที จึงไม่ยอมนอนและร้องไห้เพื่อจะกินนมเหมือนตอนกลางวันนั่นเอง 3) สภาพแวดล้อม อากาศที่ร้อนเกินไป เย็นเกินไป หรือความเหนอะหนะเนื้อตัว ล้วนทำให้ทารกหลับยาก หรือหลับแล้วก็ต้องตื่นขึ้นมาร้องไห้กวน หากมีเสียงดังรบกวน ก็มักทำให้ทารกต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาบ่อยครั้ง และจะไม่ยอมนอนอีก 4) ไม่สบายตัวจากเสื้อผ้าและเครื่องนอน ที่มีความหนาหรือบางเกินไปหรือเนื้อผ้าไม่อ่อนนุ่มพอ ทำให้ต้องตื่นขึ้นมาเพราะนอนไม่สบาย หรือผลิตภัณฑ์ซักผ้าเด็กที่คุณแม่ใช้ อาจทำให้เด็กเกิดผดผื่น คันผิวหนังเพราะแพ้ผลิตภัณฑ์ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เด็กหลับยาก ควรสังเกตและเปลี่ยนเป็นยี่ห้อที่ไม่ระคายเคืองต่อผิวเด็ก 5) ลูกป่วย ไม่สบาย เช่น แพ้อากาศ เป็นหวัด เป็นสาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้ลูกร้องและไม่ยอมนอนทั้งคืน คุณแม่ควรสังเกตอาการ สัมผัสเนื้อตัวลูกว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ เช่น ตัวร้อน หายใจแรง หรือท้องแข็งผิดปกติ หากพบความผิดปกติเช่นนี้ ควรรีบพาลูกไปพบแพทย์ทันที 6) โคลิค (baby colic) เป็นอาการที่เด็กร้องไห้มาก ร้องนาน และมักชอบร้องตอนกลางคืน ร้องเหมือนได้รับความเจ็บปวด พบได้บ่อยในเด็กวัยแรกเกิด อายุตั้งแต่ 3 สัปดาห์ถึง 3 เดือน ซึ่งทางการแพทย์ยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้ สันนิษฐานว่ามาจากพื้นฐานทางอารมณ์และสุขภาพของตัวเด็กเองและครอบครัว แต่อาการโคลิคจะหายไปเองได้เมื่อเด็กอายุย่างเข้าเดือนที่ 4
เมื่อทราบสาเหตุการหลับยากของลูกกันแล้ว ก็ลองมาดูวิธีการช่วยให้ลูกเป็นคนเลี้ยงง่าย หลับง่าย เพื่อ พัฒนาการแต่ละช่วงวัย ที่ดีเลิศของลูกกันค่ะ • ให้ลูกหลับบนเบาะหรือบนเตียง พ่อแม่หลายคนมักจะอุ้มลูกจนลูกหลับคาตักหรือคาอ้อมแขน แล้วจึงนำไปวางบนที่นอน จะทำให้ลูกติดตัก เอาไปวางเมื่อไหร่เป็นต้องตื่น และสะดุ้งตื่นบ่อย ๆ • จัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะกับการนอนหลับ เช่น เงียบสงบ ปรับอากาศให้พอดีไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป ไฟสลัวพอดี ไม่สว่างไม่มืดจนเกินไป ให้ลูกรู้สึกปลอดภัย หลับได้สนิทตลอดคืน • อย่าเล่นกับลูกก่อนนอน เพราะลูกจะตื่นเต้นตาสว่างจนเลยเวลานอน บางครั้งอาจทำให้ละเมอตื่นกลางดึก และร้องไห้ตกใจกลัว ส่งผลต่อการนอนได้ • ให้ลูกเพลิดเพลินไม่เหงาด้วยการดูดจุกปลอมก่อนนอน เป็นวิธีช่วยให้ลูกหลับได้ดีวิธีหนึ่ง แต่ควรใช้เมื่อลูกอายุ 1 เดือนขึ้นไป เพราะลูกวัยนี้สามารถดูดนมจากเต้าได้ดีแล้ว พอลูกหลับสนิทแล้วจึงค่อย ๆ ดึงออก หากตื่นขึ้นมาอีกในตอนดึกก็ให้ลองตบก้นเบา ๆ ปลอบให้หลับ เด็กก็อาจหลับต่อได้โดยไม่ต้องให้นมหรือจุกนมหลอกอีก วิธีนี้ใช้ได้ไปจนถึงลูกอายุ 1 ขวบ • ให้ลูกรู้จักแยกแยะเวลากลางวันกลางคืนได้ โดยพ่อแม่ฝึกลูกด้วยการจัดบรรยากาศในบ้านตอนกลางวัน เปิดประตูหน้าต่างให้มีแสงสว่างเข้ามา หรือทำกิจกรรมพาลูกออกไปเดินเล่นนอกบ้าน ให้เห็นแสงธรรมชาติ แทนการกล่อมให้ลูกหลับทั้งวัน เพราะบางครั้งหากลูกหลับกลางวันมากเกินไป กลางคืนเขาก็จะไม่นอน • การร้องเพลงกล่อมเด็ก สมัยโบราณพ่อแม่หรือปู่ย่าตายายมีเพลงกล่อมเด็กไว้สำหรับกล่อมเด็กให้หลับอย่างอบอุ่นและมีความสุข ยุคนี้พ่อแม่อาจเปิดเพลงคลอเบา ๆ ก็ได้ ให้ลูกได้ผ่อนคลาย และช่วยให้หลับสบายยิ่งขึ้น • ถ้าลูกยังคงตื่น ให้ตรวจหาสาเหตุอื่น ๆ ถ้าก้นเปียกเพราะผ้าอ้อมเปียกแฉะทำให้ลูกตื่นมา ก็ให้เปลี่ยนใหม่ทันที คุณแม่ควรเลือกใช้ผ้าอ้อมที่มีสัมผัสอ่อนนุ่ม ขนาดพอดีตัว ซึมซับได้ปริมาณมากและยาวนาน ไม่ไหลซึมย้อนกลับ ไม่รั่วซึม แห้งสบายตัว อีกทั้งระบายอากาศได้ดี เพื่อให้ลูกหลับสนิทตลอดคืน และถ้าลูกยังไม่หยุดร้อง ก็ให้ดูดน้ำจากขวดแทนการให้นม จะช่วยให้เด็กหลับต่อได้ เพราะถ้าให้นมโดยเด็กไม่หิว จะกลายเป็นเด็กดูดนมมากเกินไปจนอึดอัด หลับไม่สบาย
การนอนหลับที่เพียงพอและมีคุณภาพนั้น เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ลูกมี พัฒนาการเด็ก ที่ดี คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญและอย่าละเลยปัญหาการนอนของลูกเป็นอันขาด ควรป้องกันแก้ไขก่อนที่จะสายเกินไป ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้อง หากคุณพ่อคุณแม่สามารถแก้ไขได้ ก็จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของลูกให้เป็นไปอย่างสมวัย อารมณ์ดี ร่าเริงแจ่มใส พ่อแม่ก็มีความสุข และได้นอนหลับพักผ่อนเต็มอิ่มไปกับลูกอย่างมีความสุข
คุณพ่อคุณแม่เคยสงสัยว่า ทำไมในกลุ่มพ่อแม่ผู้ปกครองถึงไม่ค่อยคุยกันเรื่องอาหารการกินของลูกๆ มากนักทั้งๆ ที่เรื่องสารอาหารและโภชนาการที่ครบถ้วนเป็นนั้นสำคัญมาก
ในช่วงที่ลูกยังเป็นทารกหรือเป็นเด็กเล็กนั้น ถือว่ามีความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ง่าย บทความนี้เราจึงได้รวบรวม “โรคฮิต” มีอะไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ
การแข่งขันระหว่างพี่น้องเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับทุกครอบครัว แม้มันอาจจะทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกหงุดหงิดและทุกข์ใจไปบ้าง แต่มันคือส่วนหนึ่งของชีวิตครอบครัวค่ะ
ถ้าคุณแม่จะมีลูก จะได้คำแนะนำจากเพื่อน การดูโฆษณา การคุยกับแม่ของคุณแม่เองหรือผู้หญิงที่เจอที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งจะแนะนำแตกต่างกันไป เรามีคำแนะนำมาฝากค่ะ
การท่องเที่ยวของคุณแม่ตั้งครรภ์จะไม่แนะนำให้ท่องเที่ยวในประเทศโซนร้อน โดยเฉพาะประเทศที่กำลังพัฒนา เรามีคำแนะนำดีๆ สำหรับคุณแม่มาฝากค่ะ
เด็กนมแม่มักจะอุจจาระบ่อยและเหลวนุ่ม เนื่องจากนมแม่ย่อยง่าย ดูดซึมไวจึงขับถ่ายได้ไวและบ่อย แต่บางคนอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย คือ อุจจาระบ่อยจนก้นแดง ซึ่งเรื่องนี้คุณแม่สามารถแก้ไขและป้องกันได้ง่ายๆ ด้วยวิธีต่อไปนี้ค่ะ
คุณพ่อคุณแม่ทุกคนคงเคยเห็นตารางพัฒนาการเด็กแต่ละช่วงวัยที่แปะไว้ในห้องคุณหมอเด็กกันแล้วใช่ไหมคะ ถ้าอยากช่วยให้กล้ามเนื้อของลูกน้อยมีพัฒนาการสมวัย ลองทำกิจกรรมเหล่านี้ดูค่ะ