การย้ายตัวอ่อนเป็นขั้นตอนต่อไปในกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) หรือ การรักษาด้วยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ (ART) เรามีบทความดีๆ...
การดื่มแอลกอฮอล์ไม่ว่าจะปริมาณน้อยแค่ไหนก็ไม่ปลอดภัยในระหว่างตั้งครรภ์...
เมื่อกำหนดเวลาคลอดกำลังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ คุณแม่มือใหม่หลายคนอาจกำลังมีความกังวลใจเกี่ยวกับการคลอดด้วยตัวเองหรือคลอดธรรมชาติ...
เผลอเดี๋ยวเดียวเวลาก็ผ่านไปครึ่งปีแล้วนับจากวันที่ลูกน้อยลืมตาขึ้นดูโลก แม้คุณแม่จะตั้งอกตั้งใจดูแลลูกรักให้ดีที่สุดในทุกๆ วัน...
ลูกน้อยวัยนี้จะเริ่มหัดเดินด้วยตัวเองแม้ว่ายังทรงตัวได้ไม่ดีนัก พัฒนาการในช่วงนี้ขึ้นอยู่กับการปรับตัว
พัฒนาการลูกน้อยเริ่มต้นที่การเลี้ยงดู
เมื่อลูกน้อยลืมตาดูโลก ไม่ว่าเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับลูก ทุกอย่างต้องคัดสรรมาอย่างดีที่สุด คุณแม่ต้องพิถีพิถัน เลือกแล้วเลือกอีก...
บทความนี้ถูกบันทึกลงในรายการบทความที่ฉันชื่นชอบ คุณสามารถเข้าไปดูบทความที่คุณบันทึกไว้ได้ที่โปรไฟล์ของฉัน
การย้ายตัวอ่อนเป็นขั้นตอนต่อไปในกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) หรือ การรักษาด้วยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ (ART) นะคะ โดยปกติแล้วการย้ายตัวอ่อนจะเกิดขึ้นภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากไข่และอสุจิปฏิสนธิกันเรียบร้อยแล้ว เริ่มมีเซลล์แบ่งตัวเพิ่มอย่างน้อย 4 เซลล์ภายในตัวอ่อนที่มองเห็นได้เมื่อดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ค่ะ
ขั้นตอนการย้ายตัวอ่อนเป็นอย่างไร?
หลังจากผ่านกระบวนการที่ซับซ้อนมากมายกว่าจะมาถึงจุดนี้ ขั้นตอนการย้ายตัวอ่อนจึงเกือบจะเหมือนเป็นเรื่องง่ายเลยค่ะ สำหรับผู้หญิงส่วนใหญ่การย้ายตัวอ่อนนำมาใส่กลับเข้าไปในมดลูกโดยตรง ซึ่งทำในขณะที่คุณผู้หญิงยังมีสติอยู่ ถือเป็นวิธีการง่ายและไม่เจ็บปวด ไม่จำเป็นต้องใช้ยาชาและยาสลบ โดยสอดเครื่องถ่างตรวจช่องคลอดเปิดให้เห็นปากมดลูกได้ ชัดเจน จากนั้นใช้สายสวนพลาสติกสอดผ่านช่องคลอดและผ่านทางปากมดลูกจนถึงกลางมดลูก แพทย์บางคนจะใช้อัลตราซาวด์ช่วยนำทางปลายสายสวนไปยังตำแหน่งที่เหมาะสมในมดลูกก่อนที่จะฉีดตัวอ่อนเข้าไปโดยตรงเพื่อให้ฝังตัวตรงจุดที่ต้องการ การสอดสายสวนผ่านปากมดลูกเป็นเรื่องยากหากคุณผู้หญิงมีแผลเป็นหรือเคยผ่าตัดมาก่อน ทำให้การเปิดปากมดลูกมีข้อจำกัด บางครั้งก็จำเป็นที่จะต้องขยายให้ปากมดลูกเปิดกว้างก่อนการย้ายตัวอ่อนเพื่อให้สายสวนผ่านมดลูกง่ายและปลอดภัย
การย้ายตัวอ่อนกลับสู่มดลูก มีจำนวนมากน้อยแค่ไหน?
ปัจจุบันคลินิกส่วนใหญ่จะย้ายตัวอ่อนกลับเข้ามดลูกเพียง 2 ตัวเท่านั้น ทำให้การตั้งครรภ์มีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น แต่จะไม่ฝังตัวอ่อนมากกว่านั้น เพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดลูกแฝด 3 หรือแฝด 4 ขึ้นได้ค่ะ เมื่อหลายปีที่ผ่านมาวงการแพทย์กำหนดกฎเกณฑ์เพิ่มเติมเรื่องจำนวนตัวอ่อนที่ฝังในครรภ์แม่ เนื่องจากคลินิกภาวะเจริญพันธุ์ในทุกวันนี้มีความรับผิดชอบมากขึ้นในการทำเด็กหลอดแก้ว ส่งผลให้การรักษาภาวะมีบุตรยากโดยรวมมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้นตามไปด้วย
ทางเลือกในการย้ายตัวอ่อนสู่มดลูก
โดยปกติแล้วการย้ายตัวอ่อนกลับเข้าสู่มดลูกมี 2 ทางเลือก นั่นคือ การย้ายตัวอ่อนในรอบการตกไข่ตามธรรมชาติ เพาะเชื้อแล้วพร้อมจะฉีดตัวอ่อนฝังในมดลูกได้เลย หรือการย้ายตัวอ่อนที่แช่แข็งไว้สำรองใช้ในเวลาที่ต้องการ หากว่าการฉีดตัวอ่อนครั้งที่แล้วไม่ได้ผล สำหรับคุณผู้หญิงที่มีวงจรรอบเดือนและระยะการตกไข่ปกติ จะเริ่มฝังตัวอ่อนกลับเข้าสู่มดลูกภายใน 2-3 วันหลังจากมีการตกไข่ ซึ่งจะต้องพิจารณาอายุของตัวอ่อนที่ถูกแช่แข็งด้วยค่ะ ในขั้นตอนการย้ายตัวอ่อนที่ถูกแช่แข็งเข้าสู่มดลูก คุณผู้หญิงต้องเพิ่มฮอร์โมนเอสโตรเจนเพื่อระงับไม่ให้มีไข่สุกตามธรรมชาติ เมื่อร่างกายมีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงขึ้นจะกระตุ้นให้เยื่อบุมดลูกหนาขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการฝังตัวของทารกในครรภ์ ซึ่งโปรเจสเตอโรนชนิดยาสอดหรือเจลทาช่องคลอดเป็นอีกตัวช่วยกระตุ้นให้เลือดไปเลี้ยงบริเวณเยื่อบุมดลูกทำให้ผนังมดลูกหนาขึ้น ถือเป็นเรื่องปกติที่ผู้หญิงจะใช้ฮอร์โมนเป็นตัวช่วยประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนย้ายตัวอ่อน หลังจากใช้ยาสอดหรือเจลทาช่องคลอดประมาณ 4-5 วัน การฝังตัวของตัวอ่อนจะถือว่าเสร็จสมบูรณ์แล้วนะคะ
ตัวอ่อนที่แช่แข็งจะถูกแช่แข็งอย่างไร?
กระบวนการแช่แข็งตัวอ่อนเพื่อเก็บสำรองไว้ใช้ในภายหลังไม่ได้มีแค่ขั้นตอนการแช่แข็งให้ยังใช้งานได้ดีที่สุดเท่านั้น แต่ยังต้องพิถีพิถันหลายขั้นตอน ขั้นแรกตัวอ่อนจะถูกทำให้แห้งเพื่อลดความเสียหายจากการเกิดผลึกน้ำแข็งภายในเซลล์ จากนั้นขั้นต่อไปคือลดอุณหภูมิลงถึงระดับ -140 องศาและเก็บไว้ในไนโตรเจนเหลวจนกว่าจะถึงคราวจำเป็นต้องใช้ ซึ่งจะละลายตัวอ่อนใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง สิ่งสำคัญคือตัวอ่อนจะถูกแช่แข็งตามระยะเวลาอย่างแม่นยำในช่วงที่ตัวอ่อนอยู่ในระยะแบ่งเซลล์เป็น 4 หรือ 8 เซลล์ เพราะถือได้ว่ามีความเสถียรที่สุด ไม่มีความเสี่ยงที่จะได้รับความเสียหายในระหว่างขั้นตอนการแช่แข็งและการละลาย เพื่อให้มีโอกาสประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์สูงขึ้น
ตัวอ่อนฝังตัวแน่นในมดลูก
หลายคนอาจเข้าใจว่ามดลูกเป็นเหมือนพื้นที่กว้างใหญ่ที่ตัวอ่อนจะเคลื่อนตัวไปรอบ ๆ จนกว่าจะพบว่าตำแหน่งเหมาะที่จะฝังตัว แต่ภาพของมดลูกนั้นต่างจากที่คิด ความจริงแล้วผนังด้านหน้าและด้านหลังของมดลูกอยู่ชิดกัน เมื่อมีทารกอยู่ในครรภ์ ตัวอ่อนของลูกน้อยถูกล้อมรอบไปด้วยเนื้อเยื่อและเลือดที่บุรอบผนังมดลูก เมื่อมีการย้ายตัวอ่อนเข้าสู่มดลูก ตัวอ่อนจะยังคงแบ่งตัวต่อไปอีก 2-3 วันก่อนที่จะฝังตัวเกาะแน่นกับผนังมดลูกและเติบโตเป็นทารกน้อย ๆ ในท้องคุณแม่ หลังจากย้ายตัวอ่อนกลับเข้ามดลูกแล้ว ว่าที่คุณแม่ไม่ควรปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันนะคะ เพียงแค่พักผ่อนให้เพียงพอ ทำตัวสบาย ๆ ไม่เครียด โดยปกติแล้วในช่วงแรกของการตั้งครรภ์บรรดาผู้หญิงมือใหม่จะไม่เห็นความแตกต่าง ไม่รู้สึกด้วยว่า ตนเองกำลังตั้งครรภ์นะคะ ดังนั้น ไม่ต้องกังวลใจและใช้ชีวิตไปตามปกติเท่านั้น
คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกยากไม่ต้องกังวลใจไปนะคะ ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ได้มีลูกน้อยสมใจเลยค่ะ สามารถติดตามอ่านข้อมูลเพื่อเตรียมตัววางแผนการตั้งครรภ์ และวิธีช่วยให้ตั้งครรภ์ง่ายขึ้น รวมถึงในหัวข้ออื่น ๆ เพิ่มเติมจากเว็บไซต์ Huggies ได้ตลอดนะคะ หรือหากมีคำถามหรือข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถพูดคุยกับเราได้ที่ Facebook Huggies Thailand และอย่าลืม! กด สมัครสมาชิก เพื่อรับสินค้าทดลอง พร้อมรอรับข่าวสารและอัพเดตเทคนิคดี ๆ จากเรานะคะ
PopupSummary
เมื่อนาฬิกาชีวิตส่งสัญญาณเตือนภาวะมีลูกยาก คุณแม่พยายามสังเกตประจำเดือนแล้วแต่เจ้าตัวน้อยก็ไม่มาสักที เราแนะนำให้คุณแม่พบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายเบื้องต้นว่ามีความผิดปกติหรือไม่
อยากมีลูกชาย วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ มาฝากคุณพ่อคุณแม่เผื่อว่าจะช่วยให้มีลูกชายได้สมดั่งใจหวังได้ง่ายๆ มาดูกันนะคะ
ถ้าคุณพยายามจะมีลูกมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะเจ้าตัวน้อยจะมาเสียที ไม่ต้องกังวลนะคะ เรามีวิธีรักษาภาวะมีบุตรยากมากฝากค่ะ
มาเตรียมแผนรับมือกับการเจ็บครรภ์และการคลอดลูกล่วงหน้ากันค่ะ เพื่อให้คุณแม่ได้คำนึงถึงทางเลือกต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน ลองมาดูวิธีวางแผนก่อนคลอดกันค่ะ
คุณผู้หญิงที่อยู่ในภาวะมีลูกยากด้วยวิธีการตามธรรมชาติ ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ด้วยวิธีการทำเด็กหลอดแก้ว เรามีบทความดีๆ เกี่ยวกับการทำ IVF มาฝากค่ะ
การทำสีผมนั้นปลอดภัยในระหว่างการตั้งครรภ์ เพราะสีของผมนั้นจะอยู่ที่ส่วนของเส้นผมและหนังศีรษะ อยากรู้ว่าการทำสีผมปลอดภัยหรือไม่ มาดูกันค่ะ
การรู้จังหวะและช่วงเวลาการตกไข่เป็นสิ่งสำคัญนะคะ เพราะการรู้ช่วงเวลาตกไข่ จะช่วยให้มีโอกาสตั้งครรภ์ได้มากที่สุดค่ะ
คุณแม่หลายคนอยากมีลูกแฝด และมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการตั้งครรภ์แฝดมากมาย คุณแม่ที่ท้องลูกแฝดมีโอกาสท้องแฝดประมาณ 90 %
หรือกรอกข้อมูลด้านล่างเพื่อลงทะเบียน
รหัสลงทะเบียน (ตัวเลข 6 หลัก) ได้ถูกส่งไปยังเบอร์โทรศัพท์ 9999999999 ตามที่คุณแม่ได้ลงทะเบียนไว้ กรุณากรอกรหัสด้านล่าง เพื่อเปิดใช้งานบัญชี
รหัสการยืนยันไม่ถูกต้อง กรุณากรอกใหม่อีกครั้งค่ะ
หากคุณแม่ไม่ได้รับ รหัสดังกล่าว คลิกที่นี่
กรุณาตั้งรหัสผ่านสำหรับการเข้าใช้บัญชี 9090909090